วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559
วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559
ประโยชน์ของผ้าสักหลาด
ใช้สำหรับทำตุ๊กตา, งานฝีมือ, ทำกระเป๋า, ทำซองมือถือ, ตกแต่งเสื้อผ้า, ตกแต่งหมวก,ทำพรม, ตกแต่งรองเท้า, ตกแต่งกระเป๋า, ตกแต่งบรรจุภัณฑ์, ตกแต่งสถานที่, ตกแต่งภายใน เป็นต้น
ตัวอย่างพวงกุญแจผ้าสักหลาด
ที่มา : http://www.blisby.com/products/94fc620748cd3b65/%E0%B8%9E%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94-animal-gang
ความสำคัญของการทำพวงกุญแจผ้าสักหลาด
เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เป็นการพัฒนาความอดทนพยามยามและทักษะศักยภาพของตนเองให้ดียิ่งขึ้น พวงกุญแจผ้าสักหลาดสามารถนำมาตกแต่งได้หลากหลายรูปแบบ สามารถให้ผู้อื่นได้ในโอกาสต่างๆขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการตกแต่งให้ออกมาเป็นแบบไหน เป็นของขวัญที่ทำมาจากใจด้วยความตั้งใจของเราอีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่าย และ เราสามารถนำผลงานหรือชิ้นงานนี้ไปสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวและตนเองได้อีกด้วย และ ยังทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจกับผลงานของตนเองที่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเองอีกด้วย และผ้าสักหลาดนั้นมีข้อดีคือ ขอบของผ้าไม่หลุดรุ่ย เวลาทำงานฝีมือ จึงไม่จำเป็นต้องเย็บขอบผ้า ดังนั้น จึงเหมาะกับมือใหม่หัดเย็บกว่าผ้าชนิดอื่น
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559
วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559
วิธีทำพวงกุญแจผ้าสักหลาด
อุปกรณ์ :
1. ผ้าสักหลาด
2. กระดาษสำหรับร่างแบบ
3. เข็ม-ด้าย
4. ริบบิ้นผ้า
5. กรรไกร
6. กาว UHU
วิธีทำ
1. ออกแบบลงในกระดาษ
2. ตัดผ้าตามแบบที่เราได้ร่างไว้ รวมทั้งตัดส่วนประกอบอื่นๆ ที่จะใช้ตกแต่งตัวตุ๊กตาให้เสร็จ เช่น ตา ปาก หู เป็นต้น
3. นำชิ้นส่วนมาประกบกันโดยเอากระดาษแข็งที่เราตัดไว้มาเสริมด้านในเพื่อให้มี ความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น จากนั้นใช้ด้ายเย็บให้ติดกัน โดยวิธีการเย็บมี 2 วิธีคือ การเย็บแบบคัทเวิร์ค (การเย็บแบบด้ายพันเข็ม) และ การเย็บแบบธรรมดา (ด้ายไม่พันเข็ม)
4. เย็บส่วนที่เป็นหูของมิกกิ้เมาส์เข้าไปด้วย
5. ถ้าต้องการทำเป็นพวงกุญแจ หรือ ตุ๊กตาติดกระจก ให้ใช้ริบบิ้นผ้าขนาด 0.5 ซม. X 8 ซม. พับครึ่งแล้วสอดไว้ที่ส่วนหัวด้านบนของตุ๊กตา
6. ใช้กาว UHU ทาส่วนตกแต่งเล็กๆน้อยๆ
ที่มา : http://campus.sanook.com/947667/
1. ผ้าสักหลาด
2. กระดาษสำหรับร่างแบบ
3. เข็ม-ด้าย
4. ริบบิ้นผ้า
5. กรรไกร
6. กาว UHU
วิธีทำ
1. ออกแบบลงในกระดาษ
2. ตัดผ้าตามแบบที่เราได้ร่างไว้ รวมทั้งตัดส่วนประกอบอื่นๆ ที่จะใช้ตกแต่งตัวตุ๊กตาให้เสร็จ เช่น ตา ปาก หู เป็นต้น
3. นำชิ้นส่วนมาประกบกันโดยเอากระดาษแข็งที่เราตัดไว้มาเสริมด้านในเพื่อให้มี ความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น จากนั้นใช้ด้ายเย็บให้ติดกัน โดยวิธีการเย็บมี 2 วิธีคือ การเย็บแบบคัทเวิร์ค (การเย็บแบบด้ายพันเข็ม) และ การเย็บแบบธรรมดา (ด้ายไม่พันเข็ม)
4. เย็บส่วนที่เป็นหูของมิกกิ้เมาส์เข้าไปด้วย
5. ถ้าต้องการทำเป็นพวงกุญแจ หรือ ตุ๊กตาติดกระจก ให้ใช้ริบบิ้นผ้าขนาด 0.5 ซม. X 8 ซม. พับครึ่งแล้วสอดไว้ที่ส่วนหัวด้านบนของตุ๊กตา
6. ใช้กาว UHU ทาส่วนตกแต่งเล็กๆน้อยๆ
ที่มา : http://campus.sanook.com/947667/
ความหมายและประเภทของผ้าสักหลาด
ผ้าสักหลาดคืออะไร
ผ้าสักหลาดคือ ผ้าที่ทำโดยการเรียงแผ่นเส้นใยบางๆ หลายๆ ชั้นแล้วกดอัดให้แน่นเป็นผืนเดียว น่าจะมีที่มาจากการที่มีคนสังเกตเห็นว่า เมื่อเส้นใยขนสัตว์ถูกความร้อนและความชื้น (ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ) เส้นใยที่กระจัดกระจายจะมารวมอยู่ใกล้กันและพันกันไปมาจนเป็นผืนเดียวกัน มีการใช้ผ้าสักหลาดทำหัวไม้ตีกลองและค้อนในเปียโนมานานแล้วเนื่องจากมีความหนาแน่นและยืดหยุ่นได้ดี เช่นเดียวกับการทำให้เสียงจากสายเปียโนทุ้มเบาได้ด้วยกลุ่มของเส้นใยที่พันกัน ผ้าสักหลาดสามารถดูดซับเสียงก้องและเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกวันนี้ความก้าวหน้าในกระบวนการผลิตและความตระหนักที่เพิ่มขึ้นว่าการใช้วัสดุธรรมชาตินั้นมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ้าสักหลาดจึงกลายเป็นวัสดุที่ดีที่สุดเมื่อต้องการควบคุมเสียงให้นุ่มนวลและสงบเงียบในพื้นที่สาธารณะ บ้าน และสำนักงาน
ประเภทของผ้าสักหลาด
ผ้าสักหลาด เป็น 2 ประเภท คือ
1. ผ้าสักหลาดหน้าเดียว (ผ้ากำมะหยี่) เป็นผ้าชนิดเดียวกับที่ใช้ปูโต๊ะสนุก
2. ผ้าสักหลาดสองหน้า ผ้าชนิดนี้ นิยมนำมาใช้ทำงานฝีมือ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.1 ผ้าสักหลาดสองหน้าแบบนิ่ม ผลิตจากใยอะคลิลิก (Acrylic) เนื้อผ้ามีลักษณะนิ่ม น่าสัมผัส ดังนั้นจึงเหมาะกับการทำตุ๊กตา ของเล่นเด็ก
ความหนาของผ้าประเภทนี้ จะหนาประมาณ 1.2 – 1.4 มม.
2.2 ผ้าสักหลาดสองหน้าแบบแข็ง ผลิตจากใยโพลีเอสเตอร์ (Polyester) เนื้อผ้าจะมีลักษณะแข็งและเนื้อแน่น จึงเหมาะกับการทำกระเป๋า ซองใส่มือถือ
ความหนาของผ้าประเภทนี้มีทั้ง 1 มม. 2 มม. 3 มม. (แต่ที่เห็นในไทยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 มม.)
ข้อดีของผ้าสักหลาด
- ขอบของผ้าไม่หลุดรุ่ย เวลาทำงานฝีมือ จึงไม่จำเป็นต้องเย็บขอบผ้า ดังนั้น จึงเหมาะกับมือใหม่หัดเย็บ
- ด้วยคุณสมบัติของเนื้อผ้าสักหลาด จะมีความสวยงาม น่ารักในตัวอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่โดดเด่นต่างจากผ้าประเภทอื่นๆ
ข้อเสียของผ้าสักหลาด
- เมื่อถูกเสียดสีมากๆ ผ้าจะเป็นขุย ดังนั้นจึงไม่สามารถซักและขยี้แรงๆ ได้ แต่ถ้าเปื้อนเพียงเล็กน้อย สามารถแช่น้ำและขัดเบาๆ ได้
- ไม่ค่อยมีลวดลายให้เลือกมากนัก ส่วนใหญ่นิยมเป็นสีพื้น
ผ้าสักหลาดที่ขายในไทย ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากไต้หวัน เพราะราคาถูก แต่เนื้อผ้าก็เหมาะสมตามราคา คือเนื้อจะไม่ค่อยแน่น จับแล้วจะสากๆ มือ แต่ถ้าเป็นผ้าสักหลาดที่นำเข้าจากเกาหลี และญี่ปุ่น เนื้อผ้าจะดีกว่ามาก แต่ราคาก็สูงกว่าเช่นกัน ดังนั้นเวลาทำงานฝีมือ ไม่ว่าจะทำกระเป๋า ตุ๊กตา หรือนำไปตกแต่ง ก็ควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสม เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้จ่ายสูงเกินไป
ผ้าสักหลาดคือ ผ้าที่ทำโดยการเรียงแผ่นเส้นใยบางๆ หลายๆ ชั้นแล้วกดอัดให้แน่นเป็นผืนเดียว น่าจะมีที่มาจากการที่มีคนสังเกตเห็นว่า เมื่อเส้นใยขนสัตว์ถูกความร้อนและความชื้น (ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ) เส้นใยที่กระจัดกระจายจะมารวมอยู่ใกล้กันและพันกันไปมาจนเป็นผืนเดียวกัน มีการใช้ผ้าสักหลาดทำหัวไม้ตีกลองและค้อนในเปียโนมานานแล้วเนื่องจากมีความหนาแน่นและยืดหยุ่นได้ดี เช่นเดียวกับการทำให้เสียงจากสายเปียโนทุ้มเบาได้ด้วยกลุ่มของเส้นใยที่พันกัน ผ้าสักหลาดสามารถดูดซับเสียงก้องและเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกวันนี้ความก้าวหน้าในกระบวนการผลิตและความตระหนักที่เพิ่มขึ้นว่าการใช้วัสดุธรรมชาตินั้นมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ้าสักหลาดจึงกลายเป็นวัสดุที่ดีที่สุดเมื่อต้องการควบคุมเสียงให้นุ่มนวลและสงบเงียบในพื้นที่สาธารณะ บ้าน และสำนักงาน
ประเภทของผ้าสักหลาด
ผ้าสักหลาด เป็น 2 ประเภท คือ
1. ผ้าสักหลาดหน้าเดียว (ผ้ากำมะหยี่) เป็นผ้าชนิดเดียวกับที่ใช้ปูโต๊ะสนุก
2. ผ้าสักหลาดสองหน้า ผ้าชนิดนี้ นิยมนำมาใช้ทำงานฝีมือ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.1 ผ้าสักหลาดสองหน้าแบบนิ่ม ผลิตจากใยอะคลิลิก (Acrylic) เนื้อผ้ามีลักษณะนิ่ม น่าสัมผัส ดังนั้นจึงเหมาะกับการทำตุ๊กตา ของเล่นเด็ก
ความหนาของผ้าประเภทนี้ จะหนาประมาณ 1.2 – 1.4 มม.
2.2 ผ้าสักหลาดสองหน้าแบบแข็ง ผลิตจากใยโพลีเอสเตอร์ (Polyester) เนื้อผ้าจะมีลักษณะแข็งและเนื้อแน่น จึงเหมาะกับการทำกระเป๋า ซองใส่มือถือ
ความหนาของผ้าประเภทนี้มีทั้ง 1 มม. 2 มม. 3 มม. (แต่ที่เห็นในไทยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 มม.)
ข้อดีของผ้าสักหลาด
- ขอบของผ้าไม่หลุดรุ่ย เวลาทำงานฝีมือ จึงไม่จำเป็นต้องเย็บขอบผ้า ดังนั้น จึงเหมาะกับมือใหม่หัดเย็บ
- ด้วยคุณสมบัติของเนื้อผ้าสักหลาด จะมีความสวยงาม น่ารักในตัวอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่โดดเด่นต่างจากผ้าประเภทอื่นๆ
ข้อเสียของผ้าสักหลาด
- เมื่อถูกเสียดสีมากๆ ผ้าจะเป็นขุย ดังนั้นจึงไม่สามารถซักและขยี้แรงๆ ได้ แต่ถ้าเปื้อนเพียงเล็กน้อย สามารถแช่น้ำและขัดเบาๆ ได้
- ไม่ค่อยมีลวดลายให้เลือกมากนัก ส่วนใหญ่นิยมเป็นสีพื้น
ผ้าสักหลาดที่ขายในไทย ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากไต้หวัน เพราะราคาถูก แต่เนื้อผ้าก็เหมาะสมตามราคา คือเนื้อจะไม่ค่อยแน่น จับแล้วจะสากๆ มือ แต่ถ้าเป็นผ้าสักหลาดที่นำเข้าจากเกาหลี และญี่ปุ่น เนื้อผ้าจะดีกว่ามาก แต่ราคาก็สูงกว่าเช่นกัน ดังนั้นเวลาทำงานฝีมือ ไม่ว่าจะทำกระเป๋า ตุ๊กตา หรือนำไปตกแต่ง ก็ควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสม เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้จ่ายสูงเกินไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)